ผู้ไม่สันโดษด้วยภริยาของตน ย่อมซุกซนในหญิงแพศยา และประทุษร้ายในภรรยาของคนอื่น นั่นเป็นเหตุแห่งความเสื่อม

เสหิ ทาเรหิ อสนฺตุฏฺโฐ เวสิยาสุ ปทุสฺสติ ทุสฺสติ ปรทาเรสุ ตํ ปราภวโต มุขํ.

คนผู้ตื่นขึ้นแล้ว ย่อมไม่เห็นอารมณ์อันประจวบด้วยความฝัน ฉันใด คนผู้อยู่ ย่อมไม่เห็นชนอันตนรักทำกาละล่วงไปแล้ว ฉันนั้น

สุปิเนน ยถาปิ สงฺคตํ ปฏิพุทฺโธ ปุริโส น ปสฺสติ เอวมฺปิ ปิยายิตํ ชนํ เปตํ กาลกตํ น ปสฺสติ.

ผู้ติดใจในการบริโภคกาม ยินดีหมกมุ่นในกามทั้งหลาย ย่อมไม่รู้สึกซึ่งความถลำตัว เหมือนปลาถลันเข้าลอบที่เขาดักไว้ ไม่รู้สึกตัว ฉะนั้น

สารตฺตา กามโภเคสุ คิทฺธา กาเมสุ มุจฺฉิตา อติสารํ น พุชฺฌนฺติ มจฺฉา ขิปฺปํว โอฑฺฑิตํ.

ผู้ไม่ระเริงไปในอารมณ์ที่ชอบใจ ไม่ประกอบในความดูหมิ่น เป็นผู้ละเอียดเฉียบแหลม ย่อมไม่เชื่อง่าย ไม่หน่ายแหนง

สาติเยสุ อนสฺสาวี อติมาเน จ โน ยุโต สณฺโห จ ปฏิภาณวา น สทฺโธ น วิรชฺชติ.

ไม่พึงดูหมิ่นลาภของตน ไม่ควรเที่ยวปรารถนาลาภของผู้อื่น ภิกษุปรารถนาลาภของผู้อื่น ย่อมไม่บรรลุสมาธิ

สลาภํ นาติมญฺเญยฺย นาญฺเญสํ ปิหยญฺจเร อญฺเญสํ ปิหยํ ภิกฺขุ สมาธึ นาธิคจฺฉติ.

เราค้นหาทุกทิศแล้ว ก็ไม่พบผู้อื่นซึ่งเป็นที่รักยิ่งกว่าตนในที่ไหน ๆ ถึงผู้อื่นก็มีตนเป็นที่รักมากอย่างนี้ เพราะฉะนั้น ผู้รักตนจึงไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น

สพฺพา ทิสา อนุปริคมฺม เจตสา เนวชฺฌคา ปิยตรมตฺตนา กฺวจิ เอวํ ปิโย ปุถุ อตฺตา ปเรสํ ตสฺมา น หึเส ปรํ อตฺตกาโม.

ถ้าเป็นผู้มีอินทรีย์สมบูรณ์ สงบและยินดีในทางสงบแล้ว จึงชื่อว่า ชนะมารพร้อมทั้งพาหนะ ทรงไว้ซึ่งกายอันมีในที่สุด

สเจ อินฺทฺริยสมฺปนฺโน สนฺโต สนฺติปเท รโต ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ เชตฺวา มารํ สวาหนํ.

บัณฑิตละราคะ โทสะ และโมหะ ทำลายสังโยชน์ได้แล้ว ย่อมไม่หวาดเสียวในการสิ้นชีวิต พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด ฉะนั้น

ราคญฺจ โทสญฺจ ปหาย โมหํ สนฺทาลยิตฺวาน สํโยชนานิ อสนฺตสํ ชีวิตสงฺขยมฺหิ เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป.

ผู้ใดเป็นคนฉลาด แกล้วกล้า เป็นผู้ฟังมาก ทรงธรรม และประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม คนเช่นนั้นท่านเรียกว่า ยังหมู่ให้งดงาม

โย โหติ พฺยตฺโต จ วิสารโท จ พหุสฺสุโต ธมฺมธโร จ โหติ ธมฺมสฺส โหติ อนุธมฺมจารี ส ตาทิโส วุจฺจติ สงฺฆโสภโณ.

ผู้มีปรีชาใด เป็นคนกตัญญูกตเวที มีกัลยาณมิตรสนิทสนมกัน และช่วยทำกิจของมิตรผู้ตกยากโดยเต็มใจ ท่านเรียกคนอย่างนั้นว่า สัตบุรุษ

โย เว กตญฺญู กตเวทิ ธีโร กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหติ ทุกฺขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ กิจฺจํ ตถาวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺติ.

ผู้ใดไม่ฆ่าเอง ไม่ให้ผู้อื่นฆ่า ไม่ชนะเอง ไม่ให้ผู้อื่นชนะ ผู้นั้นชื่อว่ามีเมตตาต่อสัตว์ทั้งปวง และไม่มีเวรกับใคร ๆ

โย น หนฺติ น ฆาเตติ น ชินาติ น ชาปเย เมตฺตโส สพฺพภูตานํ เวรนฺตสฺส น เกนจิ.

ผู้ใดจักไม่ทำตามโอวาทที่ผู้รู้แสดงแล้ว ผู้นั้นจักถึงความย่อยยับ เหมือนพ่อค้าถึงความย่อยยับเพราะพวกโจรสลัด ฉะนั้น

เย น กาหนฺติ โอวาทํ นรา พุทฺเธน เทสิตํ พฺยสนํ เต คมิสฺสนฺติ รกฺขสีหิว วาณิชา.

ผู้ใดทำกรรมชั่วแล้ว ละเสียได้ด้วยกรรมดี ผู้นั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง เหมือนพระจันทร์พ้นจากเมฆหมอกฉะนั้น

ยสฺส ปาปํ กตํ กมฺมํ กุสเลน ปิถียติ โสมํ โลกํ ปภาเสติ อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา.

บุคคลรู้แจ้งธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้วจากผู้ใด พึงนอบน้อมผู้นั้นโดยเคารพ เหมือนพราหมณ์นับถือการบูชาไฟ ฉะนั้น

ยมฺหา ธมฺมํ วิชาเนยฺย สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิตํ สกฺกจฺจํ นํ นมสฺเสยฺย อคฺคิหุตฺตํว พฺราหฺมโณ.

คนไม่มีโชค มีศิลป์หรือไม่มีศิลป์ก็ตาม ขวนขวายรวบรวมทรัพย์ใดไว้ได้เป็นอันมาก ส่วนคนมีโชคย่อมบริโภคทรัพย์เหล่านั้น

ยํ อุสฺสุกฺกา สงฺฆรนฺติ อลกฺขิกา พหุํ ธนํ สิปฺปวนฺโต อสิปฺปา วา ลกฺขิกา ตานิ ภุญฺชเร.

คนเขลาคิดว่า เรามีบุตร เรามีทรัพย์ จึงเดือดร้อน ที่แท้ตนของตนก็ไม่มี จะมีบุตร มีทรัพย์ มาแต่ที่ไหนเล่า

ปุตฺตา มตฺถิ ธนมตฺถิ อิติ พาโล วิหญฺญติ อตฺตา หิ อตฺตโน นตฺถิ กุโต ปุตฺตา กุโต ธนํ.